การวิ่งเป็นกีฬาที่หลายๆ คนชื่นชอบ เพราะเป็นกีฬาที่สามารถทำได้ง่ายๆ แค่มีรองเท้าผ้าใบดีๆ สักคู่ก็วิ่งได้แล้ว และยังเป็นกีฬาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจอีกด้วย
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีนักวิ่งหน้าใหม่จำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้วิธีการวิ่งที่ถูกต้อง รวมถึงการเตรียมตัวก่อนและหลังวิ่ง ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ดังนั้นเราจึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อยของนักวิ่งมาไว้ที่นี่แล้ว พร้อมคำตอบที่ถูกต้อง เพื่อให้นักวิ่งทุกคนได้วิ่งอย่างถูกวิธี ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นักวิ่ง 1 กิโลเมตร จะใช้พลังงานประมาณ 60-100 แคลอรี่ โดยปริมาณพลังงานที่ใช้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้
โดยทั่วไปแล้ว นักวิ่งที่มีน้ำหนักมากจะใช้พลังงานมากกว่านักวิ่งที่มีน้ำหนักน้อย นักวิ่งที่วิ่งเร็วจะใช้พลังงานมากกว่านักวิ่งที่วิ่งช้า และนักวิ่งที่วิ่งในเส้นทางที่มีความลาดชันหรือในสภาพอากาศที่ร้อนจะใช้พลังงานมากกว่านักวิ่งที่วิ่งในเส้นทางราบหรือในสภาพอากาศที่เย็น
นักวิ่งควรดื่มน้ำก่อนวิ่งอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง และดื่มน้ำเป็นระยะๆ ทุกๆ 15-20 นาทีในขณะที่วิ่ง และควรดื่มน้ำหลังวิ่งเพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไป
ปริมาณน้ำที่ควรดื่มจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะทางที่วิ่ง สภาพอากาศ และระดับเหงื่อของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว นักวิ่งควรดื่มน้ำประมาณ 500-1,000 มิลลิลิตรต่อชั่วโมงที่วิ่ง
นักวิ่งควรกินอาหารหลังวิ่งภายใน 30-60 นาที เพื่อช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเติมเต็มพลังงานที่สูญเสียไป อาหารที่เหมาะสำหรับการกินหลังวิ่งควรเป็นอาหารที่มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น
การวิ่งเป็นกีฬาที่ดีต่อสุขภาพ แต่ก็ต้องวิ่งอย่างถูกวิธี ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพด้วย โดยนักวิ่งควรรู้จักวิธีการเตรียมตัวก่อนและหลังวิ่ง รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะสมสำหรับนักวิ่ง เพื่อให้การวิ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง